วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

ขนมเปียกปูน


ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า
4
ถ้วยตวง
แป้งมัน
2
ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส
1
ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ
3
ถ้วยตวง
น้ำเปล่า
8
ถ้วยตวง
กาบมะพร้าวเผาไฟ
3
กาบ
มะพร้าวทึนทึก
1
ผล
วิธีทำ
1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ผสมน้ำปูนใส น้ำเปล่า และน้ำตาล กรองด้วยผ้าขาวบาง2. กาบมะพร้าวที่เผาแล้วละลายน้ำที่เหลือ กรองด้วยผ้าขาวบาง ผสมลงในแป้งให้มีสีดำ3. กวนแป้งในกระทะทอง หรืออะลูมิเนียมสำหรับทำขนมก็ได้ กวนจนเหนียว เกือบแห้ง4. ตักใส่ถาดพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็น จะตัดเป็นชิ้นหรือแกะออกจากพิมพ์ก็ได้5. ใช้มะพร้าวขูดเป็นเส้น คลุกกับเกลือป่นเล็กน้อย โรยบนขนม
หมายเหตุ กาบมะพร้าวเผาไฟจะต้องกรอง 2 คร้ง ให้ได้น้ำที่ปราศจากผงจริงๆ บางตำรับก็จะใช้สีแทน การกวนควรใช้พายไม้ เพราะแป้งที่ใกล้แห้งจะกระเด็นมาก

ขนมมันสำปะหลัง


ส่วนผสม
มันสำปะหลังขูดบีบเอาน้ำออก
1 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง
6 ช้อนโต๊ะ
แป้งเท้ายายม่อม
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย
หัวกะทิ
1/2 ถ้วย
กลิ่นกะทิ
1/2 ช้อนชา
สีผสมอาหารสีต่างๆ
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
เกลือป่น
วิธีทำ1. นำมันสำปะหลังปอกเปลือกล้างให้สะอาด ขูดฝอยบีบเอาน้ำออก2. ใส่แป้งมันสำปะหลัง แป้งเท้ายายม่อม น้ำตาลทราย กะทิ กลิ่นมะลิ คนให้เข้ากัน3. นำแป้งมาใส่สีตามชอบ4. ตั้งน้ำให้เดือด เรียงถ้วยตะไลในลังถึงให้เต็ม ตักขนมหยอดให้เต็มถ้วย 5. นำไปนึ่งประมาณ 15 นาทีหรือจนขนมสุก6. ทิ้งไว้ให้เย็น แคะออกจากพิมพ์ แล้วโรยมะพร้าวขูดฝอยที่คลุกกับเกลือแล้วข้อสังเกตถ้าจะดูว่าขนมสุกหรือไม่ ให้ใช้ไม้จิ้มลงไปในถ้วยขนม ถ้าขนมไม่ติดไม้แสดงว่าขนมสุกแล้วมะพร้าวทึนทึก หมายถึง มะพร้าวที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป และก่อนจะเอามาโรยขนมต้องคลุกเกลือเสียก่อน แต่ห้ามนำไปนึ่งเด็ดขาด มะพร้าวจะแห้ง ควรใช้มะพร้าวสดๆโรยลงไปเลย



ขนมบัวลอยแก้ว

บัวลอยแก้ว คำว่า "แก้ว" ก็หมายถึง แป้งต้องใสเป็นแก้วขนมบัวลอยแก้วใช้แป้งมันเทศ ก่อนจะทำขนมนี้กันขออธิบายแป้งมันของขนมไทยเสียก่อนว่า แป้งมันของขนมไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ แป้งมันสำปะหลัง หมายถึงแป้งมันที่ทำมาจากมันสำปะหลัง ชนิดที่ 2 เรียกแป้งมันเหมือนกัน แต่เป็นแป้งมันเทศ แป้งมันเทศคือ แป้งที่ได้จากมันเทศ ลักษณะแป้งทั้ง 2 ชนิดนี้ ต่างกันที่สี แป้งมันสำปะหลังจะมีสีขาวกว่าแป้งมันเทศ และเมื่อนำแป้งมันสำปะหลังนวดกับน้ำร้อนแล้ว แป้งมันสำปะหลังจะเหนียวเป็นก้อน แต่สำหรับแป้งมันเทศเมื่อนวดกับน้ำร้อนแล้วแป้งจะเหนียวนุ่มไม่เป็นก้อน เนื้อแป้งเนียนส่วนผสม
แป้งมันสำปะหลัง
1 ถ้วยตวง
น้ำร้อน
1/4 - 1/2 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ
2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย
3/4 ถ้วยตวง
แป้งมันสำปะหลังหรือแป้งท้าวยายม่อม
5 - 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้ง
5 - 6 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ
1 ถ้วยตวง
เกลือป่น
1 ช้อนชา
มะพร้าวอ่อนขูดเฉพาะเนื้อ
1/2 - 1 ถ้วยตวง




วิธีทำแป้ง 1. ตวงแป้งใส่ภาชนะ ทำบ่อตรงกลางไว้ 2. ใส่น้ำร้อนลงไป คนให้แป้งกับน้ำร้อนเข้ากัน พอแป้งอุ่นนวดให้เป็นเนื้อเดียวและให้แป้งเนียน คลึงแป้งเป็นเส้นยาวๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ตัดเป็นท่อนสั้นๆยาว 1 เซนติเมตร คลุกกับแป้งมันสำปะหลัง พักไว้ประมาณ 30 นาที 3. ต้มน้ำเปล่าในหม้อให้เดือด นำแป้งในข้อที่ 2 ใส่ลงไป ลดไฟให้อ่อนลง เมื่อแป้งลอยขึ้นมา ตักขึ้นใส่น้ำเย็นไว้ เทใส่กระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 4. ผสมน้ำลอยดอกมะลิ (ถ้าไม่มีน้ำลอยดอกมะลิให้ใส่น้ำธรรมดาผสมกลิ่นดอกมะลิ) กับน้ำตาลทรายและแป้งมันเทศหรือแป้งท้าวยายม่อม (แป้งท้าวยายม่อมได้จากพืชชนิดหนึ่งเป็นพืชส่วนหัว พืชชนิดนั้นชื่อต้นเท้ายายม่อม) โดยต้องละลายน้ำเสียก่อน ผสมให้เข้ากัน ตั้งไฟให้เดือด ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ต้องคนตลอดมิฉะนั้นแป้งจะเป็นเม็ด คนไปเรื่อยๆจนกว่าแป้งจะสุก ลักษณะแป้งจะใส เมื่อแป้งสุกแล้วจึงใส่แป้งในข้อที่ 3 ลงไป คนให้เข้ากันและเดือดอีกครั้ง ก่อนจะยกลง ใส่มะพร้าวอ่อนคนให้เข้ากัน ยกลง 5. ผสมหัวกะทิกับเกลือป่น คนให้เข้ากัน ตั้งไฟพอควันขึ้นหรือพอเดือดนิดหน่อยยกลง กรองด้วยกระชอนเพื่อให้กะทิเนื้อเนียน 6. เมื่อจะเสิร์ฟหรือรับประทานจึงตักขนมแล้วราดด้วยกะทิ

สาคูเปียกถั่วดำ


สาคูเปียก ขนมไทยแบบง่ายๆ ที่มีรสหวานนุ่มเนื้อสาคูเปียกเม็ดกลมใสเมื่อรับประทาน นำสาคูเปียกมาผสมกับถั่วดำแกงบวดเนื้อนุ่มรสหวานหอมน้ำตาลมะพร้าว ราดด้วยหัวกะทิรสเค็มมันหอมกลิ่นกะทิสดใหม่ เลือกใช้สาคูเม็ดเล็ก ถั่วดำเลือกแบบเม็ดอ้วน เคล็ดลับเปียกสาคู ต้มสาคูพอสุกเป็นตากบ (ยังมีไตแป้งขาวขุ่นด้านใน) ใส่น้ำตาล ต้มจนสุกใสดี ถ้าใส่น้ำตาลตอนแป้งยังไม่สุก สาคูก็จะไม่สุกต่ออีกเลย ส่วนถั่วดำแกงบวดต้องต้มถั่วดำด้วยไฟกลางจนสุกนุ่ม ถ้าต้มถั่วด้วยไฟแรง เนื้อถั่วจะแข็งกระด้างไม่นุ่มส่วนผสม (สำหรับ 5-6 คนรับประทาน)
สาคูเม็ดเล็ก
1 ถ้วย
น้ำ
2 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้น
1 ถ้วย
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเส้นสำหรับตกแต่ง
ถั่วดำแกงบวด
ถั่วดำต้มสุก
2 ถ้วย
กะทิ
2 ถ้วย
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลมะพร้าว)
3/4 ถ้วย
หัวกะทิ
หัวกะทิ
3/4 ถ้วย
เกลือสมุทร
1/2 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า
1/2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างสาคู เทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่สาคู ต้มพอสุกเป็นตากบ (ยังมีไตแป้งขาวขุ่นอยู่ด้านใน)3. ใส่น้ำตาล คนให้ทั่วและน้ำตาลละลาย ต้มต่อจนเม็ดสาคูใส ปิดไฟ เทใส่ชาม ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน คนพอทั่ว4. ทำถั่วแดงแกงบวดโดยใส่ถั่วดำต้มสุก กะทิ เกลือและน้ำตาลปี๊บ ลงในหม้ออีกใบ คนให้ทั่ว ยกขึ้นตั้งไฟกลาง พอเดือดทั่วยกลง5. ทำหัวกะทิโดยผสมหัวกะทิกับเกลือลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนพอเดือดจึงละลายแป้งข้าวเจากับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ เทใส่ในหม้อ คนให้ทั่ว เคี่ยวพอกะทิมีลักษณะข้น ปิดไฟ เทใส่ถ้วย พักไว้6. ตักสาคูใส่แก้ว ตักถั่วดำแกงบวดใส่ราดด้วยกะทิ ตกแต่งด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน พร้อมเสิร์ฟ

ขนมหม้อแกงเผือก


เครื่องปรุง
ไข่เป็ด
4 ฟอง
มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม
2 ถ้วย
น้ำร้อนสำหรับคั้นกะทิ
3/4 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ
3/4 ถ้วย
เผือกนึ่งสุดบดละเอียด
1/2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า
2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ 1.บดเผือกกับกะทิ 1 ถ้วย และแป้งจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน(แบ่งไว้ 1/2 ถ้วย) 2. ขยำไข่กับน้ำตาลทั้งสองชนิดด้วยใบเตย 5 นาที เทข้อ 1 ขยำต่ออีก 5 นาที กรองด้วยกระชอนลวด 3. จุดเตาอบอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ นำถาดเข้าอบจนร้อนจัด(3 นาที) นำออกจากเตาเทกะทิที่ผสมเผือกลง 1/2 ถ้วย เกลี่ยให้ทั่วถาด เทข้อ 2 ใส่ถาด เกลี่ยหน้าให้เสมอราดหน้าด้วยกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วย ให้เสมอกันทั่วถาด เข้าอบจนหน้าเหลืองเข้มเกือบเป็นสีน้ำตาล ประมาณ 30 นาที นำออกจากเตาวางถาดบนตะแกรง ปล่อยไว้ให้เย็นสนิท จึงตัดเป็นชิ้นลงจานเสิร์ฟเป็นอาหารหวาน

ขนมลูกชุบ


เครื่องปรุง ถั่วเขียวนึ่งสุกบดละเอียด 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วยตวง หัวกะทิ (มะพร้าว 400 กรัม) 1 ถ้วยตวง สีผสมอาหารสีต่างๆส่วนที่ชุบวุ้นผง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 2 1 /2 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง วิธีทำ1. ผสมถั่วบด น้ำตาลทราย กะทิ เข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟ2. กวนด้วยไฟอ่อนๆจนล่อนจับกันไม่ติดกระทะ3. พักถั่วกวนไว้ให้เย็น นำมาปั้นเป็นรูปผลไม้ต่างๆตามต้องการ เสียบไม้ไว้4. ใช้พู่กันจุ่มสีระบายลงบนขนมที่ปั้น โดยระบายเลียนแบบของจริง ทิ้งไว้ให้แห้งจึงนำไปชุบวุ้น5. ผสมวุ้นกับน้ำยกขึ้นตั้งไฟให้ละลายก่อนจึงใส่น้ำตาลทราย เคี่ยววุ้นจนข้น6. เอาขนมที่ปั้นแล้วเสียบไม้ลงชุบวุ้นครั้งเดียวให้ทั่ว ทิ้งไว้จนแห้งแล้วชุบอีก ทำเช่นนี้ประมาณ 3- 4 ครั้ง จะชุบแต่ละครั้งต้องให้เย็น วุ้นแข็งตัวก่อนทุกครั้ง7. เมื่อวุ้นแข็งจึงเอาไม้เสียบออก ตกแต่งด้วยก้านและใบให้สวยงาม

ตะโก้แก้ว


เครื่องปรุง แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง น้ำลอยดอกไม้ 4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง น้ำใบเตยคั้น 1/4 ถ้วยตวง หน้าขนม กะทิ 3 ถ้วยตวง แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา กระทงใบเตย แห้วต้มหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วยตวงวิธีทำ1. ตัวขนม ผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลทราย ตั้งไฟพอละลาย ยกลงกรองทิ้งไว้ให้เย็น2. ผสมแป้งถั่วเขียว น้ำเชื่อมจากข้อ 1 น้ำใบเตย คนให้เข้ากัน ตั้งไฟกวนจนสุกใส ใส่แห้วคนให้เข้ากัน3. ตักตัวขนมใส่ในกระทงประมาณ 3/4 ของกระทง4. ผสมกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือป่น เข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟกวนจนข้น แป้งสุกตักหยอดลงในกระทงที่มีตัวขนมจนเต็ม ทิ้งไว้ให้เย็นใช้ได้

ขนมครก


เครื่องปรุงตัวแป้ง1.แป้งข้าวเจ้า (แห้ง) 1 ถ้วยตวง2.น้ำ 2 ถ้วยตวง3. ข้าวสุก 1/3 ถ้วยตวง4. มะพร้าวทึนทึกขูดขาว1/2 ถ้วยตวง5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา6.น้ำร้อน 1/2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง หน้ากะทิ1.หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง3. เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
เครื่องใช้เฉพาะเตาขนมครก ลูกประคบ (กากมะพร้าวห่อ ด้วยผ้า ขาว โดยใช้ผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 6x6 นิ้ว )วิธีทำ1.ใส่กากมะพร้าวตรงกลางรวบ ชายผ้าเข้า มาทุกด้าน2. ผูกเชือกให้กาก มะพร้าวรวมตัว เป็นก้อนกลมแผ่น ทิ้งชายไว้สำหรับจับช้อน สำหรับแคะขนมครก น้ำมัน สำหรับทาเบ้าขนมครก3. ตวงแป้ง 1 ถ้วยตวงใส่ชามผสม เติมน้ำ 1 ถ้วยตวง คนให้เข้ากัน แล้วแช่ไว้ 12 ชั่วโมง หรือค้างคืน4. บดข้าวสุก 1/3 ถ้วยตวง มะพร้าวขูด ถ้วยตวง พร้อมน้ำอีก 1 ถ้วยตวง5. ใส่เบลนเดอร์จนละเอียดดี หรือโม่ด้วยโม่หินก็ได้6. เทมะพร้าวและข้าวสุกที่บดแล้วลงในชามแป้งที่แช่ไว้ เติมเกลือป่น คนให้เข้ากันดี ใช้เป็นตัวแป้งขนมครก7. ผสมกะทิ น้ำตาล และเกลือด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลายตั้งเตาขนมครกบนไฟอ่อน ๆ ให้ร้อนจัด จึงใช้ลูกประคบ แตะน้ำมันพืชเช็ดเบ้าขนมครกทุกเบ้าให้ชุ่มน้ำมัน ตักแป้งหยอดลงในเบ้าประมาณค่อนเบ้า รอสักครู่จึงหยอดหน้ากะทิลงประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ ปิดฝารอจนขอบแป้งเกรียมเหลือง จึงใช้ช้อนแซะขึ้นใส่ถาด


บัวลอยไข่หวาน



ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว
50 กรัม
น้ำเปล่า (สำหรับผสมตัวแป้ง)
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำคั้นใบเตย
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
250 กรัม
น้ำเปล่า
1 ถ้วยตวง
หัวกะทิคั้นข้นๆ
1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น
1/4 ถ้วยตวง
ไข่ไก่
3 ฟองวิธีทำ1. ผสมน้ำเปล่ากับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่กระทะตั้งไฟพอเดือด จนส่วนผสมเป็นน้ำเชื่อมข้นๆ เบาไฟอ่อนๆ รอจนน้ำเชื่อมเป็นยางมะตูมอ่อนๆ เบาไฟอ่อน 2. ผสมแป้งข้าวเหนีว 25 กรัมกับน้ำเปล่า และผสมแป้งที่เหลือกับน้ำคั้นใบเตย นวดจนเนียน ปั้นเป็นเม็ดกลมเล็ก ใส่ก้อนแป้งลงต้มจนแป้งสุกใสและลอยขึ้น ตอกไข่ไก่ลงไปต้มในน้ำเชื่อม จนไข่สุกลอยขึ้น3. ตั้งกะทิให้เดือด ใส่เกลือป่นคนจนละลาย4. ตักบัวลอยใส่ถ้วย ตักน้ำกะทิราดข้างบน จัดเสิร์ฟถ้าอยากมีลูกบัวลอยสีอื่นๆก็ใช้น้ำคั้นจากผัก-ผลไม้ที่มีสีสันก็ได้นะคะ
http://www.horapa.com/content.php?Category=Dessert&No=627

ลอดช่องน้ำกะทิ


ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า
1 ถ้วย
น้ำปูนใส
5 ถ้วย
ใบเตย
10 ใบวิธีทำ1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นซอยตามขวาง โขลกหรือปั่นให้ละเอียดให้ได้ 5 ถ้วยตวง2. นวดแป้งกับน้ำปูนใส โดยใส่น้ำปูนใสทีละน้อยแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่กระทะทอง กวนด้วยไฟปานกลางจนเนื้อแป้งข้น (ยกพายขึ้นแป้งจะติดพาย)3. เทแป้งที่กวนได้ที่แล้ว ลงในพิมพ์ทองเหลืองที่เจาะรูไว้ ใช้ช้อนกดให้แป้งลอดช่องลงไปอยู่ในอ่างน้ำเย็นที่เตรียมไว้ (ถ้าน้ำร้อนต้องเปลี่ยนบ่อยๆ)4. เทตัวลอดช่องใส่ผ้าขาวบาง ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ รับประทานกับน้ำกะทิส่วนผสมน้ำกะทิ
น้ำตาลปี๊บอย่างดี
500 กรัม
มะพร้าวขูด
500 กรัม
น้ำลอยดอกมะลิ
3/4 ถ้วย
เกลือป่น
1/4 ช้อนชาวิธีทำ1. คั้นน้ำมะพร้าวด้วยน้ำลอยดอกมะลิ แยกหัวกะทิไว้ 1 ถ้วยตวง และกะทิ 2-3 ถ้วยตวง2. ละบายน้ำตาลปี๊บลงในน้ำกะทิ ใส่เกลือป่น ยกตั้งไฟพอร้อน ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น รับประทานกับตัวลอดช่องและน้ำแข็ง


ซ่าหริ่ม



ส่วนผสมตัวซ่าหริ่ม (สีขาว)แป้งถั่วเขียว 1/2 ถ้วยตวงน้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วยตวงวิธีทำตัวซ่าหริ่ม1. ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำ คนจนแป้งละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่กระทะทองเหลือง นำไปตั้งไฟกวนจนแป้งสุกและใส ยกลงจากเตา2. ตักแป้งที่กวนแล้ว ใส่ที่กดซ่าหริ่ม ค่อยๆกดลงในถังน้ำเย็นแล้วเปลี่ยนน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง เทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ ห่อด้วยผ้าขาวบางแยกเป็นสีๆหมายเหตุถ้าทำสีอื่น เช่น สีชมพู ให้ใส่สีผสมลงในแป้ง หรือสีเขียวใช้น้ำใบเตยแทนน้ำลอยดอกมะลิส่วนผสมน้ำกะทิน้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวงน้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวงกะทิ 1 ถ้วยตวงวิธีทำผสมน้ำตาลทรายกับน้ำลอยดอกมะลิ นำไปตั้งไฟคนจนน้ำตาลทรายละลาย นำกลับไปตั้งไฟใหม่จนเดือดทั่วและน้ำเชื่อมข้น ใส่กะทิลงไปคอยคนอย่าให้กะทิเป็นลูก พอเดือดทั่ว ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เวลาจะรับประทานตักขนมใส่ถ้วย ใส่น้ำกะทิและน้ำแข็งทุบละเอียด
http://www.horapa.com/content.php?Category=Dessert&No=667

หยกมณี


ส่วนผสม
สาคูเม็ดเล็ก
1 ถ้วย
มะพร้าวขูดขาว
2 ถ้วย
เกลือป่น
1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 1/2 ถ้วย
แป้งมัน
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำ
2 ถ้วย
น้ำใบเตยข้นๆ
1/2 ถ้วยวิธีทำ1. ล้างสาคูให้หมดเศษผง ใส่ชามพักไว้2. เคล้ามะพร้าวขูดกับเกลือเข้าด้วยกัน นึ่งพอร้อน พักไว้สำหรับโรยหน้า3. ต้มน้ำให้เดือด เทใส่ชามสาคู ใส่น้ำตาล แป้งมัน คนให้เข้ากัน ใส่น้ำใบเตย คนให้ทั่วอีกครั้ง4. ตักใส่ถ้วยอะลูมินั่มฟอยล์ เรียงใส่ลังถึง นึ่งในน้ำเดือดไฟแรง ประมาณ 10 นาทีหรือจนสุก โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ เสิร์ฟ


ถั่วแปบ


ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียวสด(ถ้าเป็นแป้งข้าวเหนียวชนิดแห้ง ใช้แป้ง 1 ถ้วยตวง ผสมน้ำ 1/2 ถ้วยตวง แล้วนวดให้เข้ากันเป็นก้อนนุ่ม)
1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
งาขาวคั่วพอเหลือง
2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วเขียวแช่น้ำลอกเปลือกนึ่งให้สุก
1/2ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
1 ถ้วยตวง
สีผสมอาหาร
ใบเตย
วิธีทำ1. นึ่งถั่วเขียวให้สุกเปื่อย เคล้ากับเกลือป่นพอมีรสเค็มเล็กน้อย (เกลือประมาณ 1/4 ช้อนชา)2. ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น และงาคั่วพอเข้ากัน3. ขูดมะพร้าวเป็นเส้นเล็กๆ เคล้าเกลือเล็กน้อย ถ้าต้องการเก็บขนมไว้นานควรนึ่งมะพร้าวประมาณ 5 นาที4. ค่อยๆเติมน้ำลงทีละ 2 ช้อนโต๊ะ ลงในแป้งสด นวดให้นุ่มพอปั้นได้ (แป้ง 1 ถ้วยตวง ใช้น้ำประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ขึ้นกับว่าแป้งมากหรือน้อย)5. แบ่งแป้งออกเป็น 4 ส่วน เท่าๆกัน หยอดสีตามชอบ 1-2 หยด นวดให้เข้ากัน ควรใช้สีอ่อนๆ เช่น เหลือง ชมพู เขียว(ใช้ใบเตย) จะได้แป้ง 4 สี รวมทั้งสีขาวด้วย6. ตั้งน้ำในหม้อ ใส่ใบเตยขยำพอช้ำ ตัดเป็นท่อนสั้นปิดฝาไว้ พอน้ำเดือดสักพักให้มีกลิ่นหอมช้อนใบเตยขึ้น7. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว บีบให้แบน ใส่ลงต้มในมห้อน้ำพอแป้งสุกจะลอยขึ้น ใช้ทัพพีมีรูช้อนขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ใส่ในจานที่มีมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้8. พอแป้งเย็น แผ่แป้งออกให้บาง ตักถั่วใส่ตรงกลาง แล้วพับครึ่ง เม้มริมแป้งให้ติด คลุกมะพร้าวอีกครั้งใส่จานไว้ ทำจนหมดแป้ง เวลารับประทานโรยน้ำตาล เกลือ และงาคั่ว

วุ้นกรอบ



ส่วนผสม
ผงวุ้น
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
แป้งเท้ายายม่อม
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำลอยดอกมะลิ
2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายขาว
2 ถ้วยตวงวิธีทำ1. นำวุ้นกับน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟกลางให้วุ้นละลาย ใส่น้ำตาลทรายขาว กรองด้วยผ้าขาวบาง ยกขึ้นตั้งไฟ2. เคี่ยวต่อให้เหนียวนิดหน่อย (นำแป้งเท้ายายม่อมละลายน้ำเตรียมไว้) เทส่วนผสมให้เข้ากับวุ้นที่เคี่ยว3. เทวุ้นลงในถาด หนาประมาณ 1/2 นิ้ว ทิ้งไว้ให้แข็งตัว ตัดด้วยพิมพ์รูปต่างๆหรือตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้วยมีดตัดวุ้น4. นำวุ้นที่ได้ไปตากแดดจัดๆประมาณ 2-3 วัน จนแห้งสนิทหมายเหตุใส่แป้งเท้ายายม่อมเพราะทำให้เนื้อวุ้นไม่แข็งกระด้าง
http://www.horapa.com/content.php?Category=Dessert&No=758

ปั้นสิบไส้พริกขิงปลา


ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเจ้า
1 1/2 ถ้วย
แป้งมัน
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวยายม่อม
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า
1 ถ้วยวิธีทำ1. ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันในกระทะทองเหลือง ตั้งไฟกวนให้ส่วนผสมสุกรวมตัวเป็นก้อน นำมานวดกับแป้งมันอีก 1/4 ถ้วย2. นำแป้งมาแผ่บางๆ หุ้มไส้ นำไปนึ่งจนสุก รับประทานกับผักสดตามชอบอ่ร่อยได้คุณค่าคั้นน้ำจากใบกวางตุ้งผสมกับตัวแปง จะได้ปั้นสิบสีเขียว หากอยากได้สีเหลือง ให้คั้นน้ำฟักทอง สีส้มจากแครอท จะได้ปั้นสิบสีสวย แถมมีคุณค่าวิตามินจากผักเพิ่มอีกด้วยส่วนผสมไส้ปลาพริกขิง
เนื้อปลานึ่ง แกะ
100 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา
1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วผักยาวหั่นฝอย
100 กรัม
กระเทียม พริกไทย รากผักชี ตำ
1 ช้อนโต๊ะวิธีทำผัดกระเทียม พริกไทย รากผักชีตำ น้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกเผากับน้ำมันพืช พอหอมใส่เนื้อปลานึ่ง ถั่วฝักยาวหั่นฝอยลงผัดต่อ เติมน้ำซุป ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย

ขนมปังฝรั่งเศส


ส่วนผสมสปองจ์ แป้งสาลีทำขนมปัง 3 1/2 ถ้วยตวง น้ำ 1 ถ้วยตวง ยีสต์ 1 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมโดแป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง 1 ถ้วยตวง น้ำเย็น 1/4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา เกลือ 1 1/2 ช้อนชา เนยขาว 1 1/2 ช้อนชาวิธีทำ1. ผสมส่วนผสมของสปองจ์ ให้เข้ากันแล้วหมักไว้ 3 ชั่วโมง 2. เติมส่วนผสมของโด ยกเว้นเนยขาวลงในแป้งที่หมัก ผสมจนเข้ากันดี3. เติมเนยขาวลงไป นวดแป้งจนเหนียวได้ที่ พักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที4. ตัดแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนหนัก 270 กรัม ปั้นเป็นรูปหมอน พักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที5. คลึงแป้งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนาประมาณ 1/4 นิ้ว ม้วนแบบแยมโรลเป็นท่อนยาวประมาณ 15 นิ้ว วางบนถาดโรยแป้งไว้6. รอให้ขนมปังขึ้นประมาณ 30 นาที หรือขึ้นประมาณ 3/4 ของแป้งที่ขึ้นได้เต็มที่7. ย้ายแป้งออกจากถาดมาวางบนตะแกรงลวด ทาผิวขนมปังด้วยน้ำให้ทั่ว ใช้มีดบั้งเป็นเส้นทแยงมุม 4-5 บั้ง นำเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งผิวแข็งกรอบ นำออกจากเตาอบ


ฟรุ้ตเค้กแบบง่าย


ส่วนผสมแป้งสำหรับทำเค้ก 3 1/2 ถ้วยตวงเนยสด 1 1/2 ถ้วยตวงน้ำตาลทราย 1 2/3 ถ้วยตวงเกลือ 1 1/2 ช้อนชานมสดระเหย 2/3 ถ้วยตวงเอ็มเพล็กซ์ 1 1/2 ช้อนชาไข่ไก่ 6 ฟองผงฟู 1 1/2 ช้อนโต๊ะผลไม้เชื่อมแห้งหั่นชิ้นเล็กคลุกแป้งให้ทั่ว (สับปะรด เชอร์รี่เขียว-แดง ฟักเชื่อม กล้วยตาก เปลือกส้มโอ มะตูม ฯลฯ เป็นต้น) 1 3/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ1. ผสมแป้ง เนยสด น้ำตาลทราย เกลือ นมสดระเหย และเอ็มเพล็กซ์ลงในอ่าง ผสมตีด้วยเครื่องตี ความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที หมั่นปาดข้างอ่างผสมและที่ตีอย่างสม่ำเสมอ2. ต่อยไข่ใส่ลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางอีกประมาณ 2 นาที3. เติมผงฟู แล้วตีดัวยความเร็วต่ำอีกประมาณ 2 นาที4. ใส่ส่วนผสมของผลไม้ คนให้ทั่ว5. เทลงพิมพ์ที่ทาเนยและโรยด้วยแป้งจนทั่ว นำเข้าอบไฟประมาณ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 35-40 นาที หรือจนกระทั่งสุก หมายเหตุเอ็มเพล็กซ์เป็นสารที่ช่วยให้ขนมขึ้นฟูเช่นเดียวกับ เอส.พี. มีขายตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ทั่วไป

ขนมปังโฮลวีท


ส่วนผสมแป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง 5 1/4 ถ้วยตวง แป้งสาลีโฮลวีท 5 1/3 ถ้วยตวงยีสต์แห้ง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง เกลือ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 2 2/3 ถ้วยตวง เนยขาว 1/3 ถ้วยตวง
วิธีทำ1. ผสมแป้งขนมปังกับแป้งโฮลวีทเข้าด้วยกัน และยีสต์แห้ง ใส่ ในอ่างพักไว้2. ละลายน้ำตาล เกลือ น้ำตาลทรายแดงกับน้ำ เติมส่วนผสมของน้ำตาลและเนยขาวลงในส่วนผสมของแป้ง นวดจนกระทั่งเนียนและเข้ากันดี คลุมด้วยผ้าขาวบางแล้วหมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง3. แบ่งแป้งออกเป็นก้อนๆหนักก้อนละ 350 กรัม แล้วปั้นเป็นก้อนกลม คลุมด้วยผ้าขาวบาง และพักไว้อีก 10 นาที4. คลึงแป้งด้วยไม้คลึงแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 6 x 5 นิ้ว แล้วใช้มือม้วนแบบแยมโรล5. วางแป้งที่ม้วนไว้ลงในพิมพ์ขนมปังขนาด 3 x 7 1/2 นิ้ว สูง 3 นิ้ว ที่ทาเนยไว้ คลุมด้วยผ้าขาวบาง แล้วพักทิ้งไว้ประมาณ 1 1/2 ชั่วโมง6. นำเข้าอบใช้ไฟ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลืองโด (Dough) หมายถึง ส่วนผสมดิบที่มีลักษณะเหนียว เกิดจากการผสมแป้งของเหลวและส่วนผสมอื่นๆ
สปองจ์ (Sponge) หมายถึง การเตรียมส่วนผสมขั้นแรกในการทำขนมปังแบบ 2 ขั้นตอน โดยส่วนผสม แป้ง น้ำ ยีสต์ แล้วหมักแป้งโฮลวีทหรือแป้งรำ คือ แป้งที่โม่จากเมล็ดข้าวสาลี ซึ่งล้างสะอาดทั้งเมล็ด และมีส่วนประกอบต่าง ๆ ของเมล็ดข้าวสาลี ในปริมาณตามธรรมชาติครบถ้วน
เอ็มเพล็กซ์ (Emplex) เป็นตัวช่วยให้ขนมปังเนื้อนุ่มละเอียด และทำให้เก็บขนมไว้ได้สดนานขึ้น

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีสมัครบล็อก

1.ขั้นตอนการสมัครใช้บริการฟรีบล็อกที่ http://www.blogger.com
เมื่อคุณเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.blogger.com คุณก็จะพบกับหน้าแรกหน้าตาแบบนี้

2.เข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 แล้วให้กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ลงไปให้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่อยู่อีเมล , ป้อนรหัสผ่าน, ชื่อที่แสดง, รหัสยืนยัน ,การยอมรับข้อตกลงต่าง ๆกรอกทุกอย่างเรียบร้อย คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”



3.เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ตั้งชื่อเว็บบล็อกตามต้องการลองดูแนวทางในการตั้งชื่อบล็อก บล็อกของคุณจะมีลักษณะแบบนี้ http://ชื่อที่คุณตั้ง.blogsport.comกรอกทุกอย่างครบถ้วนเรียบร้อย คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”


3. ขั้นตอนต่อมาให้เลือกแม่แบบ (Template) ที่ต้องการ ชอบหน้าตาแบบไหน สีอะไรก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลือกแม่แบบที่ต้องการได้แล้ว คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”






4.เมื่อทำเสร็จจะได้หน้าตาแบบนี้




5. เมื่อเสร็จแล้วหน้าจอจะบอกว่า "บล็อกของคุณถูกสร้างขึ้นแล้ว" ให้คลิก เริ่มสร้างเนื้อหา


6. เพียงแค่นี้ คุณก็มีบล็อกฟรี กับ blogger.com เป็นที่เรียบร้อย


เค้กชิฟฟอนวานิลลา


ส่วนผสม แป้งเค้ก 2 1/2 ถ้วยตวงน้ำตาล 1 1/2 ถ้วยตวงผงฟู 1/2 ช้อนโต๊ะเกลือ 1 ช้อนชาน้ำมัน 1/2 ถ้วยตวงไข่แดง 5 ฟองน้ำเย็น 3/4 ถ้วยตวงกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาไข่ขาว 8 ฟองครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชาวิปปิ้งครีม 300 กรัมน้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ - ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์ปล่องสำหรับอบเค้ก ทาเนยบางๆ ให้ทั่ว- ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงในชาม จากนั้นเติมน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน- ใส่ไข่แดงลงไปพร้อมกันทีเดียว ตามด้วยน้ำมัน น้ำเย็น และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว- ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์เร็วๆ ในชามสะอาดจนขึ้นฟู คล้ายมูสใส่ผม- ตักส่วนผสมของแป้งใส่ลงในไข่ขาวทีละนิด ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ไข่ขาวยุบตัวจนเป็นเนื้อเดียว- เทใส่พิมพ์ อบประมาณ 50-60 นาที หรือ จนเค้กสุก นำออกจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนคว่ำออกจากพิมพ์- ทำครีมสำหรับทาหน้าเค้ก โดยตีวิปปิ้งครีมที่เย็นจัดกับน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟูเหมือนครีมโกนหนวด ค่อยๆปาดลงไปบนเค้กที่เย็นสนิท- แต่งหน้าด้วยผลไม้ หรือท็อปปิ้งต่างๆ ตามใจชอบ

ทาร์ตผลไม้



ส่วนผสมคัสตาร์ดครีมซอส
ผงคัสตาร์ดสำเร็จรูป
3 ช้อนโต๊ะ
นมสด
1 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย
2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด
1 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ละลายนมสด 1/4 ถ้วยตวง กับผงคัสตาร์ดเข้าด้วยกัน เตรียมไว้2. นำนมสดที่เหลือตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายและเนยสดคนจนส่วนผสมเดือด3. เติมส่วนผสมคัสตาร์ดที่เตรียมไว้ กวนต่อจนส่วนผสมข้น ยกลงส่วนผสมแป้งทาร์ต
ไข่ไก่
1 ฟอง
ไข่แดง
1 ฟอง
น้ำตาลทราย
75 กรัม
เนยสด
150 กรัม
แป้งเค้ก
250 กรัม
ผลไม้สด
วานิลลาครีมสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ1. ใช้มือผสมแป้งเค้กและเนยสดเข้าด้วยกัน จึงเติมน้ำตาลทราย2. เติมไข่ไก่และไข่แดงลงไปผสมจนส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน3. กรุใส่พิมพ์ทาร์ตและใช้ส้อมเจาะให้เป็นรู4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที หรือจนทาร์ตเป็นสีเหลืองอ่อน5. ตกแต่งด้วยการบีบวานิลลาครีมลงในทาร์ตและจัดเรียงด้วยผลไม้ต่างๆให้น่ารับประทาน(สามารถทาแยมแอพริคอตเพื่อเพิ่มรสชาติและความสวยงามได้ค่ะ)
http://www.horapa.com/content.php?Category=Bakery&No=765

เค้กโยเกิร์ตของคนกลัวอ้วน


ส่วนผสม (10 ที่) เวลาเตรียม 15 นาที เวลาปรุง 40 นาที
เนยสดชนิดจืด 1 ถ้วย (125 กรัม)
น้ำตาลทรายบดละเอียด 1 1/3 ถ้วย ( 200 กรัม)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย (250 กรัม)
น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ
ผิวเลมอนขูดฝอย 1 ลูก
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 1/2 ถ้วย (270 กรัม)
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมน้ำเชื่อมเลมอน
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย ( 55 กรัม)
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย (125 มิลลิลิตร)
น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ
ผิวเลมอนหั่นเป็นเส้นยาว 1 ลูก
วิธีทำ
ตีเนยกับน้ำตาลทรายบดในชามผสมจนเนยขึ้นฟูขาว แล้วใส่ไข่ไก่ลงตีให้เข้ากันทีละฟอง พักไว้
ร่อนแป้ง ผงฟูและเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกันพักไว้ ผสมโยเกิร์ต น้ำและผิวเลมอนเข้ากัน จากนั้นเทส่วนผสมแป้งและโยเกิร์ตลงในส่วนผสมเนยที่ตีไว้ แล้วตีให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
ตักส่วนผสมใส่พิมพ์แบบถ้วย(สำหรับทำมัฟฟิน)ประมาณ3/4 ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 45 นาที เมื่อครบเวลาใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู ถ้าไม่มีเศษขนมติดไม้แสดงว่าสุกแล้ว
ใส่ส่วนผสมของน้ำเชื่อมเลมอนทั้งหมดลงในหม้อนำไปตั้งไฟให้น้ำตาลละลายหมดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวต่ออีก 5 นาที แล้วราดหน้าเค้กที่ยังร้อนอยู่พักไว้อีกประมาณ 10 นาที แซะเค้กออกจากพิมพ์ เสิร์ฟกับน้ำชาเข้มๆจะเข้ารสกันดี
H&C Tips
หากใช้พิมพ์ซิลิโคนอบต้องเพิ่มเวลาอบอีกเล็กน้อย เพราะซิลิโคนสื่อความร้อนได้น้อยกว่าโลหะ
เนื้อเค้กที่อบสุกแล้วจะฉ่ำและค่อนข้างหนักเล็กน้อย ต้องใช้การสังเกตมากสักหน่อยในขั้นตอนการอบว่าขนมสุกหรือยัง เพราะแม้ขนมสุกแล้วแต่เศษขนมยังอาจติดปลายไม้ขึ้นมาได้เหมือนกัน

บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก


ส่วนผสมวานิลลาสปองจ์
แป้งเค้ก
115 กรัม
ผงฟู
2 กรัม
ไข่ไก่
4 ฟอง
น้ำตาลทราย
135 กรัม
เกลือป่น
1/2 ช้อนชา
นมข้นจืด
35 กรัม
เนยละลาย
80 กรัม
น้ำเปล่า
45 กรัม
S.P.
1 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลลา
วิธีทำวานิลลาสปองจ์1. ร่อนแป้งเค้กและผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้2. ตีไข่ไก่ เกลือป่น น้ำตาลทราย และ S.P. ด้วยหัวตีตะกร้อใช้ความเร็วต่ำพอเข้ากัน3. เติมส่วนผสมแป้งในข้อที่ 1 ลงผสม ตีต่อด้วยความเร็วปานกลางกระทั่งส่วนผสมขึ้นฟูจนเป็นสีขาว4. เติมนมข้นจืด เนยละลาย น้ำเปล่า และกลิ่นวานิลลาลงในส่วนผสม ตะล่อมให้เข้ากันโดยใช้ตะกร้อมือ5. เทส่วนผสมที่ได้ใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบแล้วปาดให้เนียนเรียบเสมอกัน6. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20 นาที หรือจนเนื้อสปองจ์สุก7. รอจนเนื้อสปองจ์เย็นตัวลง จึงใช้พิมพ์กดและใช้รองเป็นฐานส่วนผสมชีสเค้ก
ครีมชีส
500 กรีม
น้ำตาลทราย
175 กรัม
ไข่ไก่
2 ฟอง
ไข่แดง
2 ฟอง
แป้งเค้ก
24 กรัม
ครีมสด
120 มิลลิลิตร
น้ำมะนาว
2 ผล
บลูเบอร์รี่กระป๋อง
1 กระป๋องวิธีทำ1. ตีครีมชีสด้วยหัวตีใบไม้โดยใช้ความเร็วต่ำ เมื่อครีมชีสเริ่มนิ่มจึงค่อยๆใส่น้ำตาลทรายและแป้งเค้ก ตีต่อจนน้ำตาลทรายผสมเข้ากันดีกับครีมชีส2. ค่อยๆใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตามด้วยไข่แดงทีละฟองเช่นกัน ตีต่อด้วยความเร็วต่ำ จนเนื้อขนมเนียน3. เติมครีมสดและน้ำมะนาวลงในส่วนผสม ตีส่วนผสมทั้งหมดต่อจนกระทั่งเนื้อเนียนสวย จึงตักใส่พิมพ์ที่รองด้วยวานิลลาสปองจ์เป็นฐาน4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที หรือจนกระทั่งขนมสุก สังเกตได้จากเมื่อกดที่ผิวขนมไม่เละติดมือ5. ตกแต่งหน้าขนมด้วยบลูเบอร์รี่กระป๋อง


คาราเมล คัสตาร์ด



ส่วนผสม
นมสดชนิดจืด
2 ถ้วย
วานิลลา
1 ช้อนชา
ไข่แดงของไข่ไก่
2 ฟอง
ไข่ไก่ทั้งฟอง
2 ฟอง
น้ำตาลทราย
1 ถ้วย
เกลือป่น
1/8 ช้อนชาวิธีทำ
1. เปิดเตาอบให้ร้อนเตรียมไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส
2. ทำคาราเมลเตรียมไว้โดยตวงน้ำตาล 1/2 ถ้วยใส่พิมพ์อะลูมิเนียม พิมพ์ละ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟอ่อน ค่อยๆ เอียงให้น้ำตาลไหลไปทั่วพิมพ์จนละลายหมดและมีสีน้ำตาลอ่อน ระวังอย่าให้ไหม้ พักไว้
3. ทำคัสตาร์ดโดยผสมนมจืดกับวานิลลา ตั้งไฟอ่อนให้เดือด ยกลง พักไว้
4. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลที่เหลือในชามผสม ตีพอไข่แตก ค่อยๆ เทนมในข้อ 3 ลงไป ระวังอย่าให้ไข่สุก ใส่เกลือ ผสมให้เข้ากัน เทลงในพิมพ์คาราเมลที่เตรียมไว้
5. วางพิมพ์ในถาดขอบสูง เทน้ำร้อนใส่ถาดให้มีระดับน้ำเท่ากับระดับส่วนผสมในพิมพ์ นำถาดไปตั้งไฟ พอเริ่มเดือดจึงนำถาดไปใส่เตาอบประมาณ 40 นาทีหรือจนสุก ยกออก ตั้งไว้ให้เย็นจึงนำเข้าตู้เย็น
6. เมื่อจะเสิร์ฟจึงนำพิมพ์ขนมออกจากตู้เย็น กรีดขอบด้านในพิมพ์ด้วยมีด นำจานที่จะจัดขนมเสิร์ฟคว่ำปิดลงบนพิมพ์ แล้วพลิกจานกลับให้หงายขึ้น เสิร์ฟ
http://www.horapa.com/content.php?Category=Bakery&No=819

Mini Chocolate Peacan Cake


ส่วนผสม
เนยสด
150 กรัม
น้ำตาลทราย
230 กรัม
ช็อกโกแลตตุ๋น
150 กรัม
ไข่ไก่
3 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์
150 กรัม
โกโก้ผง
30 กรัม
ผงฟู
1/2 ช้อนชา
พีแคนนัทอบสุกบดละเอียด
1/2 ถ้วยวิธีทำ1. ร่อนแป้งสาลี ผงฟูและโกโก้ผง เข้าด้วยกัน2. ตีเนยสดกับน้ำตาลทรายด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟูเป็นสองเท่า ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตี่อจนเข้ากันดี เติมช็อคโกแลตตุ๋นและแป้งที่ร่อนเตรียมไว้ ตะล่อมจนเข้ากัน 3. ผสมพีแคนนัทลงในเนื้อเค้ก เทลงถาดที่เนยขาวรองด้วยกระดาษไข นำเข้าอบอุณหภูมิ 350F ประมาณ 60 นาที พักขนมไว้จนเย็น4. ตัดเค้กให้มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 1/2 นิ้ว 5. ราดหน้าด้วยช็อคโกแลตกานาสจนทั่ว พักไว้จนแข็งตัว ตกแต่งด้วยพีแคนนัทส่วนผสมช็อคโกแลตนาส (ช็อคโกแลตตุ๋นสำหรับราดหน้าเค้ก)
ช็อคโกแลตสับ
200 กรัม
วิปปิ้งครีมสด
200 กรัม
เนยสด
50 กรัมวิธีทำนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟจนเดือด เทลงในช็อคโกแลตสับและเนยสดขณะร้อนๆ คนจนส่วนผสมละลายดี นำไปราดหน้าเค้กให้ทั่ว


Belgium waffle


ส่วนผสม
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง
1 ถ้วย
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก
1 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว
3 ช้อนโต๊ะ
ยีสต์ผง
1 ช้อนโต๊ะพูน
นมผง
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย
ไข่ไก่
2 ฟอง
นมสดชนิดจืดอุ่น
2 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้งอย่างดี
2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา
1 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืด
3/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี
2 ช้อนโต๊ะ
ช็อกโกแลตชิป
2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ1. ใส่แป้งสาลีทั้งสองชนิด น้ำตาลทราย ยีสต์และนมผง ลงในอ่างผสม พักไว้ 2. ผสมเกลือป่น ไข่ไก่ นมสด โยเกิร์ต น้ำผึ้งและวานิลาให้เข้ากัน แล้วเทใส่ส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากันนานประมาณ 5 นาที 3. ใส่เนยแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5นาที จนก้อนโดเหนียวนุ่ม จากนั้นพักโดไว้ให้ขึ้นเป็นสองเท่านาน 20 นาที 4. นำโดที่พักได้ที่แล้ว มานวดไล่อากาศและเติมน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีและช็อกโกแลตชิป นวดให้เข้ากัน แล้วแบ่งโดเป็นก้อนๆละ 40 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลมพักไว้ให้ขึ้นอีก 30 นาที 5. เปิดเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ทาเนยบางๆ วางก้อนโดที่ขึ้นดีแล้วลงตรงกลาง ปิดฝา อบประมาณ 1–2 นาที (แล้วแต่รุ่นและความร้อนของเครื่องทำวาฟเฟิล) เสิร์ฟร้อนๆกับผลไม้และวานิลาซอส
ส่วนผสมวานิลาซอส
ไข่แดง
2 ฟอง
นมสดชนิดจืด
1 ถ้วย
น้ำตาลทราย
3 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืด
1 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา
2 ช้อนชา

วิธีทำใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี นำไปตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนจนกระทั่งซอสเดือดและข้นขึ้น ปิดไฟและพักไว้ให้เย็น


Star Fruit Meringue Net


ส่วนผสมน้ำตาลทราย 125 กรัมไข่ขาว 2 ฟองมะเฟืองสดเฉือนเนื้อแข็งบริเวณเหลี่ยมออก หั่นบาง 0.5 ซม. 4-5 ผลช็อกโกแลตแท่งสีขาวตุ๋นใบสะระแหน่สำหรับตกแต่งวิธีทำ1. ตีไข่ขาว โดยใส่น้ำตาลทรายทีละน้อยจนหมด ตีจนขึ้นฟูขาว ตั้งยอดอ่อน นำใส่ถุงบีบที่มีหัวบีบรูปดาว2. บีบไข่ขาววนเป็นรูปถ้วยหรือรังรกในถาดอบ3. อบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จนกระทั่งแห้งแข็งตัวดี มีสีขาวนวลอ่อนๆ4. ทาช็อคโกแลตตุ๋นสีขาวด้วานใน Meringue ที่อบแล้ว จัดวางมะเฟือง ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบสะระแหน่


โรลสตรอว์เบอร์รี่


Strawberry yoghurt rolls (18 ชิ้น) เตรียม 15 นาที ปรุง 15 นาที (ไม่รวมเวลาแช่เย็น)
ส่วนผสมแป้งโรล
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
ไข่ขาว 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 2/3 ถ้วย
กลิ่นวานิลลาเล็กน้อย
ส่วนผสมโยเกิร์ตครีม
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 กระป๋อง
สีชมพูผสมอาหารเล็กน้อย
ส่วนผสมไส้สตรอว์เบอร์รี่
ผลสตรอเบอร์รี่สด 2 ถ้วย
ไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
เหล้ารัม(ไม่ใส่ก็ได้) 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแป้งโรล
1.ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยจนน้ำตาลละลายหมดและขึ้นฟูคล้ายครีม พักไว้ ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยให้ตั้งยอดอ่อนๆ จากนั้นเทผสมกันโดยใช้การตะล่อมให้เข้ากันเบาๆ
2.ค่อยๆ เติมแป้งและกลิ่นวานิลลา ตะล่อมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันเบาๆ
3.เทส่วนผสมใส่ถาดที่ปูด้วยกระดาษไขรองอบ เกลี่ยให้ส่วนผสมหนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร เท่ากันทั้งถาด นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส ประมาณ 5 -7 นาทีจนสุกเหลือง
4.นำออกจากเตาพักไว้ให้เย็น ลอกกระดาษไขออกพลิกแผ่นแป้งกลับด้านทาโยเกิร์ตครีมให้ทั่วแผ่นบางๆ แล้วตักไส้สตรอเบอร์รี่วางให้ชิดขอบด้านหนึ่ง ค่อยๆ ม้วนให้แน่นห่อกระดาษนำไปแช่เย็นไว้ ก่อนเสิร์ฟจึงตัดเป็นชิ้นจัดใส่จานตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รี่สด
วิธีทำโยเกิร์ตครีม
ผสมวิปปิ้งครีมและโยเกิร์ต ตีจนขึ้นฟู(แต่จะไม่ฟูมากเท่าวิปครีมที่ใช้บีบกินกับไอศกรีม) เติมสีชมพูผสมอาหารเล็กน้อยพอให้สวยงาม คนให้เข้ากันนำไปแช่เย็นไว้
วิธีทำไส้สตรอว์เบอร์รี่
ผ่าสตรอเบอร์รี่เป็นสี่ชิ้นเล็ก ใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟเติมไอซิ่งคนจนน้ำเริ่มออกและสตรอว์เบอร์รี่เริ่มสุกนุ่ม เติมเหล้าคนสักพัก แล้วจึงใส่แป้งข้าวโพดคนต่อจนแป้งสุกข้น
H&C Tips
ถ้าไม่มีสตรอว์เบอร์รี่สดใช้สตรอว์เบอร์รี่เชื่อมแทนได้ แต่ต้องตัดไอซิ่งออกและเพิ่มน้ำมะนาวให้ออกรสเปรี้ยวนำหวาน และเพิ่มปริมาณของแป้งข้าวโพดให้มากขึ้น
เมื่อม้วนแยมโรลเสร็จแล้วควรแช่ให้เย็นจัด จะตัดเป็นชิ้นได้สวยงามเนื้อไม่เละ


Star Cookies


ส่วนผสมเนยจืด 250 กรัมน้ำตาลทราย 180 กรัมวนิลา 2 ช้อนชาไข่ (เฉพาะไข่แดง) 1 ฟองแป้งอเนกประสงค์ 250 กรัมเกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ- ตีเนยจืด น้ำตาลทราย วนิลา ตีให้เข้ากัน- ใส่ไข่แดง ตีให้เข้ากันอีก แล้วค่อยใส่แป้ง ตีจนเนื้อแป้งเนียน- นำแป้งที่ตีจนเนียนแล้วมานวด จากนั้นปั้นให้เป็นก้อน- ห่อด้วยพลาสติกแล้วแช่ตู้เย็นไว้ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง- นำแป้งที่ได้ไปกดในพิมพ์รูปหัวใจ ก่อนนำเข้าเตาอบไฟ 180 องศา นาน 15 นาที


ช็อกโกแลต ฟองดอง


วิธีทำ Center Ganache+ ตั้งหม้อสำหรับหลนส่วนผสมในน้ำอุ่นปานกลาง, ใส่เนยลงไปในหม้อหลนแล้วคนให้ละลาย จากนั้นจึงใส่ ดาร์ก ช็อกโกแลต แล้วคนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส่วนผสมเหลวเข้ากัน+ ยกขึ้นจากน้ำอุ่นเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 15-20 นาที วิธีทำ Sponge Mix+ เตรียมเครื่องสำหรับตีสปอง จากนั้นจึงตอกไข่ไก่ทั้งไข่ขาวและไข่แดงลงไป 4 ฟอง อีก 4 ฟองที่เหลือให้แยกเฉพาะไข่แดงใส่น้ำตาลทราย แล้วตีให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมเนียนฟู + หลน ดาร์ก ช็อกโกแลต และเนยละลายเหมือนกับส่วนผสม Center Ganache+ เมื่อ ดาร์ก ช็อกโกแลต เหลวเข้ากันแล้วจึงนำไปผสมกับสปอง ที่เตรียมไว้ใส่แป้งเค้กสำเร็จรูปลงไป, ตีส่วนผสมต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งเนื้อสปองเนียนนุ่ม+ เตรียมพิมพ์สำหรับฟองดองด้วยการวางกระดาษไขไว้ด้านล่างและรอบๆ+ ค่อยๆ เทสปองลงไปในพิมพ์ครึ่งหนึ่ง
+ จากนั้นจึงแกะ Center Ganache ออกจากพิมพ์ที่แช่เย็นไว้แล้วใส่ลงไปกลาง+ ช็อกโกแลต ฟองดอง เทสปองทับอีกครั้ง นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศา ประมาณ 8-10 นาที+ เมื่อช็อกโกแลต ฟองดอง ได้ที่แล้วจึงนำออกจากเตาอบแกะพิมพ์และกระดาษไขให้เรียบร้อย เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมไอศกรีมวานิลลาและสตรอเบอร์รี่ซอสเข้มข้น
ส่วนประกอบ Center Ganacheเนยละลาย 200 กรัม
ดาร์ก ช็อกโกแลต 200 กรัมพิมพ์สำหรับช็อกโกแลตส่วนประกอบ Sponge Mixเนยละลาย 180 กรัมน้ำตาลทราย 150 กรัมแป้งเค้กสำเร็จรูป 125 กรัมดาร์ก ช็อกโกแลต 100 กรัม
ผงโกโก้ 25 กรัมไข่ไก่ 4 ฟองไข่แดง 4 ลูกพิมพ์สำหรับทำฟองดอง, กระดาษไข


รอยัลไอซิ่ง


ส่วนผสม น้ำตาลไอซิ่ง 500 กรัม ไข่ขาว 3 ฟอง ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา วิธีทำ 1. ร่อนไอซิ่ง พักไว้ 2. ตีไข่ขาวกับครีทออฟทาร์ทาร์ พอขึ้น ไส่ไอซิ่งจนหมด 3. ถ้าแห้งไปก็เติมไข่ขาว ถ้าเหลวไปก็เติมไอซิ่ง 4. แบ่งผสมสี บีบเป็นดอกไม้หรือการ์ตูน รูปสัตว์ต่างๆ โดยบีบลงบนกระดาษลอกลายหรือกระดาษไข พักให้แห้งและแข็ง โดยพักในที่แห้งและไม่โดนแสงมาก เช่น นำไปตากแดดเพราะจะทำให้สีซีด 5. แห้งแล้วแกะออกจากกระดาษ เก็บในภาชนะปิดสนิท อย่าให้มีความชื้น 6. นำไปแต่งเค้กได้ตามความต้องการ

เซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมา


เครื่องปรุง
เส้นเซี่ยงไฮ้ใบเตย
200 กรัม
หมูสับ
100 กรัม
เนื้อกุ้งแกะ
100 กรัม
ใบกะเพราะเด็ด
1 ถ้วย
กระเทียมบุบ
1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูบุบ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
1 ช้อนชา
ถั่วฝักยาวหั่น
2 ฝัก
น้ำมัน
3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อนใส่กระเทียมลงผัดจนหอม2. ใส่เนื้อหมู เนื้อกุ้ง พริกขี้หนู ถั่วฝักยาว และเส้นเซี่ยงไฮ้หั่นครึ่ง ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ใส่ใบกะเพราลงผัดตาม4. ผัดให้เข้ากันจนสุกดีแล้ว ตักขึ้นจัดใส่จานเสิร์ฟ



หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง



ส่วนผสม
หมูสามชั้น
1000 กรัม
กาน่าช่าย
500 กรัม
เห็ดหอมแห้ง
200 กรัม
เครื่องพะโล้
1 กรัม
น้ำตาลปี๊บ
100 กรัม
พริกไทยดำ
20 กรัม
น้ำต้มไก่
2500 กรัม
กระเทียม
30 กรัม
เหล้าจีน
100 กรัม
ผงอโรมาต
30 กรัม
ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา
วิธีทำ1. ตั้งหม้อใส่น้ำซุปไก่ พอเดือดใส่หมูสามชั้น เห็ดหอม กาน่าช่าย เครื่องพะโล้2. ปรุงรส ด้วยน้ำตาลปี๊บ เหล้าจีน ผงอโรมาต ซีอิ๋วดำ ซีอิ๋วขาว3. พอเดือดให้หรี่ไฟ เคี่ยวประมาณ 30 นาทีหรือหมูสามชั้นนุ่ม4. ชิมรสชาติให้ออกเค็มหวาน และเติมน้ำมันงา เหล้าจีน5. พอเดือดให้ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ


วุ้นเส้นผัดดอกไม้จีน


เครื่องปรุง
เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม (หรือใช้แบบสด)
4 ดอก
ดอกไม้จีนแช่น้ำให้นิ่ม
1/2 ถ้วย
เห็ดหูหนูแช่น้ำให้นิ่ม (หรือใช้แบบสด)
1/2 ถ้วย
วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม
1/2 ถ้วย
มะเขือเทศ
2 ลูก
ซีอิ๊วขาว
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
น้ำซุป หรือน้ำสะอาด
1/2 ถ้วย
ขึ้นฉ่าย
1 ต้น
น้ำมัน
2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ผูกดอกไม้จีนให้เป็นปมตรงกลาง 2. ผ่ามะเขือเทศเป็นสองซีก หั่นชิ้นพอคำ หั่นขึ้นฉ่ายยาว 2 นิ้ว3. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เห็ดหอมลงผัด ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดสักครู่ให้เห็ดหอมนุ่ม และเครื่องซึมเข้าเนื้อเห็ด4. ใส่ดอกไม้จีน เห็ดหูหนู วุ้นเส้น เติมน้ำซุปหรือน้ำสะอาด ใส่น้ำปลา 5. พอน้ำแห้งใส่ขึ้นฉ่าย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ


เป็ดผัดขิง



เป็ดผัดขิง
เครื่องปรุง
เป็ด
1/2 ตัว
ขิงซอย
100 กรัม
เกลือป่น
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป
1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมบุบ
10 กลีบ
น้ำมัน
2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างเป็ดให้สะอาด สับชิ้นขนาด 2x2 นิ้ว2. ล้างขิงโดยซาวกับเกลือ ล้างน้ำทิ้ง แช่น้ำไว้3. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียม พอหอมใส่เป็ด น้ำซุป ซีอิ๊วขาว ผัดจนเป็ดหายเหนียว ใส่ขิง ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ


ซุปไข่ (เมนูควบคุมน้ำหนัก)


ส่วนผสม
ไข่ไก่
2 ฟอง
กุ้ง
1/2 ถ้วย
เห็ดหอม
1/2 ถ้วย
ดอกไม้จีน (แช่น้ำ)
1/4 ถ้วย
ฟองเต้าหู้
1/4 ถ้วย
ฟักเขียว
1 ลูก
น้ำซุป
2 ถ้วย
ต้นหอมซอย
1/4 ถ้วย
กุ้งแห้ง
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด
เล็กน้อย
เกลือ ซีอิ๊วขาว
พริกไทย สำหรับปรุงรส
วิธีทำ1. ผัดเห็ดหอมพอสุก ใส่ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้และกุ้งแห้ง2. เติมน้ำซุปตั้งไฟให้เดือด ปรุงรส ใส่ฟักเขียว(ทำเป็นรูปถ้วย)ลงไป แล้วต้มจนสุก3. ตักฟักออก พักไว้ ปรุงรสน้ำซุปตามต้องการ เติมแป้งข้าวโพดให้ข้นเล็กน้อย4. ตีไข่ให้พอแตก โรยลงในน้ำซุปที่เดือด พอไข่สุก ปิดไฟ5. ตักซุปที่ได้ใส่ลงในผลฟักเขียว ใส่กุ้งแล้วโรยต้นหอมเล็กน้อย6. นึ่งอีกครั้งประมาณ 10 นาที ยกเสริฟปล. ดูในรูปจะเห็นมีกุ้งอยู่ด้านใน ส่วนสีขาวด้านนอกก็คือฟักเขียวนะคะ ทำเป็นถ้วยไว้ใส่ซุปค่ะ

http://www.horapa.com/content.php?Category=Chinese&No=508

เห็ดหอมสดผัดกุ้ง


เครื่องปรุง
เห็ดหอมสด
200 กรัม
กุ้งชีแฮ้
200 กรัม
น้ำซุป
1 ถ้วย
น้ำปลา
1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย
1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ
1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม
2 ต้น
น้ำมัน
2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างเห็ดหอม หั่นดอกละสี่ชิ้น2. ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ตัดหัว ไว้หาง ผ่าหลังชักเส้นดำออก3. ล้างต้นหอม หั่นยาว 2 นิ้ว4. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เห็ดลงผัด ใส่น้ำซุป น้ำปลา น้ำมันหอย ซอสปรุงรส สักครู่ใส่กุ้ง ละลายแป้งกับน้ำใส่ เดือดอีกครั้งใส่ต้นหอม ปิดไฟ ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน


ปลานึ่งเต้าเจี้ยว


ส่วนผสม
ปลาจะระเม็ดขาว
1 ตัว
เต้าเจี้ยว
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป
1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นบางๆ
2 ดอก
เนื้อหมูบดปรุงรส
1/4 ถ้วย
กะหล่ำปลีสด
1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และพริกไทยสำหรับปรุงรส
ก้านต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแดงซอยสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ1. ล้างปลาให้สะอาด บั้งให้สวยงาม และเรียงใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง2. ผสมเต้าเจี้ยว น้ำซุป ปรุงรส ผสมให้เข้ากัน เติมเนื้อหมูบดปรุงรสและเห็ดหอม3. เทส่วนผสมในข้อ 2 ลงบนตัวปลา นำไปนึ่งจนสุก4. เติมกะหล่ำปลีลวก โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยฝอย พริกชี้ฟ้าแดง และน้ำมันงา เสิร์ฟทันที

http://www.horapa.com/content.php?Category=Chinese&No=636

กุ้งนึ่งกระเทียมโทน


เครื่องปรุง
กุ้งแชบ๊วย
10-12 ตัว
กระเทียมโทน (กระเทียมกลีบใหญ่ๆ)
5 เม็ด
รากผักชีสับ
3 ราก
กระเทียมโทนหั่นแผ่นบาง
10 หัว
น้ำซีอิ๊วปรุงรสสำหรับนึ่ง
1 ถ้วย
กระเทียมโทนดอง
10-15 หัว
ต้นหอมซอยเล็กๆและแครอทสลักดอกไม้ที่มีเกสรเป็นดอกกุยช่าย (สำหรับตกแต่ง) หรือจะหั่นแครอทบางๆก็ได้ค่ะ
น้ำจิ้มซีฟูด
น้ำซีอิ๊วปรุงรสสำหรับนึ่งน้ำซุปกระดูกหมู 1 ถ้วยน้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชาซีอิ๊วฮ่องกง (หรือใช้เป็นซีอิ๊วขาว) 2 ช้อนโต๊ะซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะเหล้าจีน 1 ช้อนชาซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ>> ให้ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงในหม้อ ยกตั้งไฟกลางจนน้ำตาลละลาย ยกลง (ปรุงรสเพิ่มได้ตามต้องการ)น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกขี้หนูเขียว 1 ถ้วยกระเทียมแกะเปลือก 1 ถ้วยรากผักชี 3 รากน้ำปลา 1 ถ้วยน้ำมะนาว 1 1/2 ถ้วยน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะน้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย>>ปั่นเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้วิธีทำ1. ล้างกุ้งและแกะเปลือกไว้หัวและหาง ผ่าหลังจนขาด ดึงเอาเส้นดำออก2. จากนั้นม้วนหางกุ้งกลับมาตรงกลางตัวกุ้ง (สังเกตจากรูป) ทำจนครบทุกตัว เรียงใส่จานสำหรับนึ่ง3. สับกระเทียมโทนกับรากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ตรงกลางตัวกุ้งที่ทำไว้จนครบ โรยด้วยกระเทียมโทนหั่นบาง4. ราดด้วยน้ำซีอิ๊วปรุงรสให้ทั่ว 5. นำไปนึ่งในน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 5-8 นาที จนสุก จึงปิดไฟ6. ยกจานกุ้งนึ่งออก แล้วโรยด้วยน้ำกระเทียมโทนดอง ตกแต่งด้วยต้นหอมซอยท่อนเล็กและแครอทสลักดอกไม้ที่มีเกสรเป็นดอกกุยช่าย 7. เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟุ้ด


ผัดเปรี้ยวหวาน


ส่วนผสม
พริกหยวก หรือพริกหวาน
2 ผล
แตงกวา
3 ผล
สับปะรด
1/4 ผล
กระหล่ำปลีหรือกระหล่ำดอก
1 หัว
มะเขือเทศ
2 ผลใหญ่
เต้าหู้ขาวอย่างแข็งตัดพอคำ
1 แผ่นเครื่องปรุงน้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา งาคั่วบดแล้ว 1 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างแตงกวาผ่าสี่ตัดครึ่ง พริกหยวกผ่าครึ่งเป็นเสี้ยว 1/4 นิ้ว2. ปอกเปลือกสับปะรดเอาไส้ออก หั่นเป็นชิ้น 1 นิ้ว3. ใส่งาคั่วผัดให้หอม ใส่เต้าหู้ผัดพอเหลือง ใส่พริกหยวก กระหล่ำผัดพอนุ่มใส่สับปะรด ใส่แตงกวา4. ใส่มะเขือเทศผ่าเป็นเสี้ยว 1/2 นิ้ว ใส่ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล ผักสุกตักออกใส่จาน รับประทานร้อนๆ จึงจะอร่อย


เต้าหู้สอดไส้น้ำแดง


ส่วนผสม
ฟองเต้าหู้แผ่น
500 กรัม
หน่อไม้
300 กรัม
แครอท
300 กรัม
พริกหยวก
300 กรัม
เห็ดหอม
300 กรัม
มันแกว
300 กรัม
น้ำมัน
20 กรัม
ผักกาด
300 กรัม
เกลือ พริกไทยขาว
ซีอิ๋วขาว
ส่วนผสมซอส
น้ำมันหอย
50 กรัม
ซีอิ๊วขาว
50 กรัม
ผงปรุงรส
10 กรัม
ต้นหอม
20 กรัม
เหล้าจีน
50 กรัมวิธีทำ1. ตั้งกระทะกับน้ำมันพอร้อน ใส่หน่อไม้ เห็ดหอม แครอท พริกหยวก มันแกว 2. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และซีอิ๋วขาว แล้วผัดให้เข้ากัน พักไว้3. นำเครื่องที่ผัดมาม้วนในฟองเต้าหู้แผ่นให้แน่น4. นำไปนึ่งกับผักกาด พักไว้วิธีทำซอส1. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่ส่วนผสมของซอส แล้วเคี่ยวจนได้ที่2. ยกเสิร์ฟพร้อมเต้าหู้สอดไส้

http://www.horapa.com/content.php?Category=Chinese&No=381

ผัดหมี่เจ


เครื่องปรุงหมี่เหลือง 1 ถ้วย ผักคะน้า 1 ต้น เห็ดฟาง 4 - 5 ดอกเห็ดหอมปรุงรสหั่นเสี้ยว 2 ดอกเต้าหู้เหลือง หั่นชิ้นเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ หัวไชโป้สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วงอกเด็ดหาง 1/2 ถ้วย ถั่วลิสง คั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 - 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำซุปผัก 1/2 ถ้วย น้ำมันพืช 3 - 4 ช้อนโต๊ะวิธีทำ1. ล้างผักคะน้าให้สะอาด หั่นชิ้นพอคำ ล้างเห็ดฟางให้สะอาด เฉือนโคนที่สกปรกออก ผ่าครึ่ง2. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่ผักคะน้า เห็ดฟาง เห็ดหอม ใส่เต้าหู้ หัวไชโป๊ ผัดให้หอม ใส่หมี่เหลือง ผัดพอทั่ว ใส่น้ำซุป ผัดจนแห้ง3. ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู ใส่ถั่วลิสงป่น ผัดสักครู่ ใส่ถั่วงอก ( แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย ) พอทุกอย่างสุก ปิดไฟ ยกลงใส่จาน เสิร์ฟกับมะนาวหั่นเสี้ยว ถั่วงอก


ผักบรอคโคลีราดเนื้อปู



ส่วนผสม
บรอคโคลี
8 - 10 ดอก
เนื้อปูต้มแกะเนื้อแล้ว
200 กรัม
มันปู
1 ช้อนชา
ไข่ขาว
1/2 ฟอง
น้ำซุป
3 ถ้วย
แป้งมัน
1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น เล็กน้อย
วิธีทำ1. นำบรอกโคลีลวกในน้ำร้อนพอประมาณเพื่อให้ผักกรอบ แล้วนำมาผัดปรุงรสด้วยเกลือ ตักขึ้นเรียงใส่จาน2. ตั้งน้ำซุปให้ร้อน ใส่เนื้อปู ปรุงรสชาติ เมื่อน้ำซุปเดือดใส่ไข่ขาวและแป้งมันละลายน้ำลงไปนิดหน่อยพอข้น3. ราดน้ำซุปลงบนผักบรอกโคลีที่ลวกแล้ว โรยหน้าด้วยมันปู พร้อมเสิร์ฟ
http://www.horapa.com/content.php?Category=Chinese&No=504

เต้าหู้ปลาทรงเครื่อง


ส่วนผสม
เต้าหู้ปลา
6-7 ชิ้น
หมูบด
100 กรัม
กระเทียมสับ
1 ช้อนโต๊ะ
ขิงสับ
1/2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย
2 ต้น
น้ำสต๊อคไก่
1 ถ้วย
แป้งข้าวโพดผสมน้ำ
เครื่องปรุงพริกป่น, น้ำตาล, เกลือ, เหล้าจีน, ซีอิ๊วดำ, ซีอิ๊วขาว, น้ำมันงาวิธีทำ1. ผัดกระเทียม ขิงและพริกป่นให้หอม จากนั้นใส่หมูบดและเต้าหู้ปลาผัดให้พอสุก2. ใส่น้ำสต๊อกไก่ลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วดำและซีอิ๊วขาว3. ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดที่ผสมน้ำแล้วให้พอข้น4. รอจนเดือด เติมน้ำมันงาและเหล้าจีนเพื่อเพิ่มความหอม ตักเสิร์ฟ